ซานชิงซานเขาสวรรค์แห่งแรกบนพื้นพิภพ

 "ถ้าได้อยู่บนเทือกเขาที่ยิ่งใหญ่ดั่งเขาไท่ซาน สวยงามอัศจรรย์เหมือนเขาหวงซาน สูงชันเทียบเขาหัวซาน เมฆหมอกดุจเขาหลูซาน ความงามละเมียดละไมดั่งเขาง้อไบ๊ มีใครสนใจไปสัมผัสด้วยกันบ้างไหม?"
       
       คำโปรยนี้ ฉันได้มาจากบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง ทีแรกยังอดสงสัยไม่ได้ว่าสถานที่แบบนี้จะมีจริงหรือ? เทือกเขาที่รวบรวมทุกสิ่งเข้าด้วยกัน แต่แล้วก็ได้รู้ว่าความงดงามอันแสนยิ่งใหญ่นี้ เราจะค้นพบได้ที่ "ซานชิงซาน" ( Mount Sanqingshan National Park) เทือกเขาที่ได้รับสมญานามว่า "เขาสวรรค์แห่งแรกในพิภพ"

ที่ตั้งของโรงแรมที่กลายเป็นอดีตไปแล้วบน “ซานชิงซาน”

 ในการประชุมมรดกโลกครั้งที่ 32 ณ เมืองควิเบก ประเทศแคนาดา ซานชิงซาน แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองซ่างหราว มณฑลเจียงซี ได้กลายเป็นอีกหนึ่งมรดกโลกทางธรรมชาติ ซึ่งนับเป็นมรดกโลกลำดับที่ 37 ของประเทศจีน
       
       ชื่อของซานชิงซานได้กลายเป็นสถานที่ที่มีผู้คนมากมาย อยากท่องเที่ยวไปยลโฉมกันขึ้นมาทันที ว่าที่นี่มีอะไรพิเศษถึงได้รับเลือกเป็นมรดกโลก สำหรับคนที่ไม่รู้จักเทือกเขาซานชิงซาน พอรู้ประวัติแล้วอาจจะร้อง โอ้โห! เลยก็เป็นได้
       
       ต่อไปนี้จะพาแง้มประตูไปรู้จักกับซานชิงซานให้มากยิ่งขึ้น ซานชิงซาน เป็นเทือกเขาที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของมณฑลเจียงซี ระหว่างอำเภอเต๋อซิ่งและอำเภออี่ว์ซัน มียอดเขาที่สูงสุดอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,816.9 เมตร มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 229 ตารางกิโลเมตร บนเทือกเขาซานชิงซาน มียอดเขาสูง 3 ยอด ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ อี้ว์จิง อี้ว์สีว์ และอี้ว์หัว

ช่วงทางเดินที่ทั้งแคบมีทั้งหมอกและฝน

 เทือกเขาซานชิงซานมีอายุกว่า 1,600 ปี ในอดีตใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญตบะของผู้คนที่นับถือลัทธิเต๋า สำหรับผู้ที่นับถือลัทธิเต๋า ที่นี่จึงเป็นเสมือนเทือกเขาศักดิ์สิทธิ์ของผู้ที่นับถือลัทธิเต๋า
       
       นอกจากนี้ซานชิงซานยังเคยได้รับสมญานามว่าเป็น "วังแห่งซานฉิง" ในอดีตราชวงศ์ตงจิ้น ของจีนใช้ที่นี่สถานที่ทำยาสมุนไพรยาอายุวัฒนะทำให้คนอายุยืน และยังมีเตาทำยาสมุนไพรที่ยังคงหลงเหลืออยู่ให้ได้ชมด้วย
       
       ด้านความสวยงามของซานชิงซานซึ่งเป็นที่กล่าวขาน คือ เป็นสถานที่ซึ่งมีหมู่ยอดเขาสูงเสียดฟ้าที่มีรูปร่างสวยแปลกตา จึงเกิดเป็นสถานที่ซึ่งมีทิวทัศน์อันสวยงาม ดึงดูดให้ผู้ที่หลงใหลในความงามของธรรมชาติเข้าไปสัมผัส

หินก้อนนี้เหมือนแม่ชีกำลังนั่งสมาธิ

ด้วยความที่ซานชิงซานเป็นสถานที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มากในด้านธรรมชาติ ทำให้ได้รับคัดเลือกจากรัฐบาลจีน จัดทำเป็นศูนย์เพาะพันธุ์หมีแพนด้าแห่งที่ 2 ของจีน หลังจากเขตเพาะพันธุ์หมีแพนด้าในเขตอั้วหลง มณฑลเสฉวน ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา
       
       สาเหตุที่ได้รับเลือกเพราะว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน โดยทางการจีนได้ดูจากที่เทือกเขาซานชิงซาน มีอัตราการครอบคลุมของป่าไม้สูงถึงร้อยละ 89.1% อุณหภูมิและความชื้นของธรรมชาติก็เหมาะที่จะเป็นสถานที่เติบโตของหมีแพนด้า และสิ่งสำคัญที่สุดในบริเวณเขาซานชิ่งซานอุดมไปด้วยใบไผ่ ซึ่งเป็นอาหารหลักของหมีแพนด้าด้วย
       
       การเที่ยวซานชิงซานนั้นต้องใช้บริการของกระเช้าไฟฟ้าโดยสาร เพื่อขึ้นสู่ยอดเขาซานชิงซาน กระเช้าไฟฟ้าใช้เวลา ประมาณ 40 นาที ในการขึ้นสู่ยอดเขา แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปซานชิงซานว่าควรไปในช่วงเช้า เนื่องจากเมื่อขึ้นสู่ซานชิงซานแล้วต้องเวลาเดินชมตามจุดต่างๆอีกราว4-6 ชั่วโมง
       
       เมื่อขึ้นสู่ซานชิงซาน สิ่งที่เราจะได้ชม คือ "สวนหนานชิงหยวน" ซึ่งมีความสำคัญ คือ เป็นสถานที่ศึกษาประจำลัทธิเต๋า ภายในประกอบด้วยศาลา หินแกะสลัก ซุ้มประตู สะพานต่างๆกว่า 200 จุดก่อสร้างด้วยฝีมือประณีต จนได้รับสมญานามว่า"พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งลัทธิเต๋า"

หินก้อนนี้คล้ายงูแผ่แม่เบี้ย

มนต์เสน่ห์อยากหนึ่งของซานชิงซานคือ ทำให้เคลิบเคลิ้มราวกับตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน เพราะมีความงามของทะเลเมฆ มีความสวยงามของต้นไม้ดอกและดอกตู้เจียนฮัวเป็นพันๆ ไร่ ซึ่งเป็นธรรมชาติที่หาชมได้ยากยิ่ง จนมีสมญานามว่าเป็นนางพญาฤดูใบไม้ผลิ ใครได้ไปเยือนซานชิงซานช่วงดอกตู้เจียนฮัวบาน จึงถือว่าเป็นบุญตาเป็นอย่างยิ่ง
       
       เส้นทางบนซานชิงซานในบางช่วง เราอาจต้องเดินเลียบตามทางเดินที่เลียบหน้าผา เพื่อชมทิวทัศน์อันงดงามของขุนเขา อาจมีอาการหวาดเสียวเล็กน้อย เพราะลมที่นี่ทั้งพัดเย็นและแรง คนตัวเล็กแบบฉันอาจปลิวได้ง่ายๆ อีกทั้งเมฆหมอกก็มีอยู่ตลอดเวลา หนาบ้าง เบาบางบ้าง ในบางขณะหมอกหนาจนมองไม่เห็นทางข้างหน้าก็มี ฉันถึงได้บอกว่า การมาที่นี่เป็นการมาระเริงกับกับหมอกดีๆนี่เอง แต่ก็ยังไม่เคยได้ข่าวว่ามีใครถูกพัดร่วงลงไป ระบบการจัดการของทางซานชิงซานค่อนข้างดี มีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าดูเป็นจุดๆ
       
       แม้ว่าซานชิงซานจะอยู่สูง แต่ก็ไม่ได้หายใจลำบาก กลับรู้สึกปลอดโปร่งเสียด้วยซ้ำ ไม่ถึงขนาดต้องใช้ออกซิเจนกระป๋อง แบบสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง คนเฒ่าคนแก่ก็เห็นเดินกันปร๋อทีเดียว
       
       การเดินทางมาซานชิงซานแนะนำอย่างหนึ่งว่า ควรเตรียมร่มไว้ด้วย เพราะอากาศบนยอดเขาค่อนข้างแปรปรวนฝนตกได้ตลอดเวลา ใส่รองเท้ากันลื่นด้วยยิ่งดี เพราะจะลื่นแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่คงมีคนลื่นบ่อยจนทางเจ้าหน้าที่ต้องติดป้ายเตือนระวังทางลื่น

 ดูเหมือนว่าจีนจะเป็นอีกประเทศหนึ่ง ที่มีแหล่งท่องเที่ยวเยอะจริงๆ เที่ยวเท่าไหร่ก็ไม่หมดไม่ทั่ว มีสถานที่ใหม่ๆออกมาล่อตาล่อใจอยู่เสมอ และ "ซานชิงซาน" ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่งดงามน่าค้นหาไม่แพ้ที่อื่นใดในจีนเลย ใครไม่เชื่อก็ลองตีตั๋วมาดูให้เห็นกับตาสิ
       
             
       "ซานชิงซาน" ตั้งอยู่ในเมืองซ่างหราว มณฑลเจียงซี ประเทศจีน การเดินทางจากกรุงเทพฯสามารถบินตรงสู่กวางเจา ก่อนจะเปลี่ยนเครื่องภายในประเทศบินสู่นครหนานชาง เมืองหลวงของมณฑลเจียงซี แล้วต่อรถโดยสารเพื่อขึ้นสู่เทือกเขาซานชิงซาน