
หล่อแก กับ การหาแหล่งน้ำบาดาล
ศาสตร์จีนโบราณอย่างอี่จิง กล่าวถึงพลังปราณหรือชี่ว่า พลังชี่อันหมายรวมถึง ลม ฟ้า อากาศ และพลังงานต่างๆที่แฝงอยู่ในสรรพสิ่งจะไหลเลื่อนเคลื่อนผ่านสิ่งต่างๆอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการไหลเวียนอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของพลังชี้นี้เองที่ทำให้ศาสตร์อี้จิงเชื่อว่า สรรพสิ่งในจักรวาลล้วนถูกร้อยรัดเชื่อมโยงกัน มีผลกระทบซึ่งกันและกัน ไม่มีสิ่งใดแยกเป็นเอกเทศได้
ในตำราอี้จิงกล่าวว่า พลังชี้ สัมพันธ์กับโลก สามทางด้วยกันคือ
1 พลังชี่ของฟ้า คือ พลังธรรมชาติที่อยู่บนท้องฟ้า ไม่ว่าจะเป็น แสงอาทิตย์ ลม ฟ้า อากาศ แรงดึงดูดจากดวงจันทร์และดวงดาว
2 พลังชี่ของดิน คือ พลังธรรมชาติที่อยู่ทั้งบนพื้นดินและใต้ดิน หมู่มวลก้อนหิน ดิน ทราย แร่ธาตุต่างๆ ต้นน้ำ ลำธาร ขุนเขา ต้นไม้
3 พลังชี่ของมนุษย์ คือพลังต่างๆในร่างกายมนุษย์
ซึ่งศาสตร์อี้จิงพยว่า หากพลังชี่ของสรรพสิ่งมีการไหลเวียนทั้งในตัวของมันเองและเมื่อสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆอย่างสมดุลแล้ว ก็จะเกิดแต่สิ่งดีๆขึ้น ด้วยอิทธิพลของตำราอี้จิง ศาสตร์ฮวงจุ้ยได้กำเนิดขึ้นในเวลาต่อมาและพัฒนาจนถึงขั้นมีเครื่องมืช่วยในการคำนวณซึ่งก็คือหล่อแกหรือเข็มทิศฮวงจุ้ย
ประโยชน์ของหล่อแกคือ ฃ่วยในการคำนวณหามุม ทิศ ระยะ อันจะนำไปสู่การ ปลูกสร้างจัดภูมิทัศน์ ตกแต่งภายใน เพื่อเป็นมงคลหรือเจริญรุ่งเรืองต่อมนุษย์ แต่หล่อแก ก็มิใช่เป็นเพียงเครื่องมือ หามุม ทิศ ระยะตามที่ตำรากำหนดไว้ หากแต่การคำนวณนั้น จะเป็นการคำนวณหาจุดซึ่งทำให้พลังชี่ไหลเวียนได้คล่อง อันจะนำมาสู่ความสมดุลและรุ่งเรืองในที่สุด
ดังนั้น ในกรณีการหาแหล่งน้ำบาดาลของซินแสเหวิน ก็คือการใช้หล่อแกหาพลังชี่ของกระแสธารน้ำใต้ดิน แต่เนื่องด้วยการหาพลังชี่ใต้ดินเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากเพราะไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆใต้ดินได้ ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถแยกแยะพลังชี่ของสรรพสิ่งในใต้ดินว่าพลังมาจากแหล่งใด ฉะนั้นผู้ที่ใช้หล่อแกจะต้องมีทักษะสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นทักษะของการรวบรวมจิตให้สงบและละเอียดอ่อนต่อสัมผัสต่างๆ ที่รับรู้จากพลังชี่จากใต้ดิน แล้วสามารถแยกแยะได้ว่าเป็นพลังชี่จากแหล่งใด
ไม่เพียงแต่ศาสตร์จีนเท่านั้น ที่มีการหาแหล่งน้ำบาดาลด้วยวิธีการหาคลื่นพลังจากใต้ดิน ในศาสตร์ทางตะวันตกก็มีวิธีการที่ชื่อว่า Dowsing เพื่อหาพลังซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นได้เช่นกัน
Dowsing กำเนิดในดินแดนเยอรมัน ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ใช้ประโยชน์ในการค้นหาสายแร่ต่างๆใต้ดินและยังสามารถใช้ค้นหาของหายได้ด้วย โดยจะใช้ลวดทองเหลืองหรือโลหะอื่นๆ เช่น ลวดไม้แขวนเสื้อ นำมาตัด ดัด ทำเป็นรูปตัว L สองเส้นด้วยกัน
วิธีการใช้ก็คือ สองมือจับด้านสั้นของลวดข้างละอัน ในลักษณะขนานกับพื้นโลก จากนั้นก็สำรวจบริเวณที่ต้องการค้นหา ซึ่งผู้ใช้ Dowsing หรือเรียกว่า Dowser นั้นจะต้องมีสมาธิและประสาทสัมผัสที่ไวต่อคลื่นพลังมาก โดยการค้นหาจะสำเร็จเมื่อลวดสองเส้นเบนเข้ามากระทบกันกลางตัว Dowser และบางครั้งตัว Dowser ที่มีความสามารถมากๆยังสมาสมารถได้ยินเสียงต่างๆใต้ดิน เช่น เสียงธารน้ำไหลได้อีกด้วย
ปัจจุบันวิธีการ Dowsing ยังไม่ถูกพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์อย่างสมบูรณ์ แต่สันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับเรื่องสนามแม่เหล็กและแรงดึงดูดของโลก ที่ทำปฏิกิริยากับลวดและตัว Dowser เอง จนสามารถแปรออกมาเป็นคำตอบต่างๆ
เมื่อนำหลักการของ Dowsing มาพิจารณากับการทำงานของหล่อแกแล้วจะเห็นว่า มีหลักการในการค้นหาพลังงานต่างๆใต้ดินเหมือนกัน เนื่องด้วยพลังชี่มีส่วนที่เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับสนามแม่เหล็กโลกด้วย
แต่เหตุที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างแน่ชัดว่าพลังชี่และวิธีการ Dowsing เป็นไปตามตรรกะของวิทยาศสตร์นั้น ก็เป็นเพราะวิทยาศาสตร์ไม่สามารถสร้างเครื่องมือตรวจวัดพลังชี่ได้ ดังเช่นที่ Dowser หรือซินแสเหวินสามารถทำได้นั้นเอง
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกเลยที่การค้นหาแหล่งน้ำของซินแสเหวิน จะทำให้ผู้คนที่เห็นผลกับตาจะซูฮกซินแสว่าเป็นดั่ง ผู้หยั่งรู้ฟ้าดิน
|